fbpx

5 ตัวชี้วัดสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ ก่อนที่จะเข้าสู่โลกแห่งคริปโทในช่วงตลาดหมี

ทุกคนดูเป็นอัจฉริยะและกูรูผู้รอบรู้ในตลาดกระทิง แต่จะลงทุนอย่างไรในช่วงตลาดขาลงที่ยาวนานและโหดร้าย? ต่อไปนี้คือห้าสิ่งที่นักลงทุนควรพิจารณาก่อนเข้าลงทุนในโครงการคริปโทใดๆ ก็ตามในช่วงตลาดหมี

ตลาดหมีในโลกคริปโทนั้นโหดร้ายและอันตรายมากกว่าที่ใคร ๆ คาดไว้ มันสามารถทำลายพอร์ตของคุณได้อย่างย่อยยับและมีแนวโน้มที่จะทำให้นักลงทุนที่ไม่มีการวางแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นสามารถหมดตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ตลาดหมีที่ดูเหมือนว่าจะมีแต่ด้านที่โหดร้ายก็ยังมีด้านดีๆ เหลืออยู่บ้าง การปรับฐานครั้งสำคัญของตลาดนั้นเป็นดั่งโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้นักลงทุนมีเวลาสำหรับการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้น และมันยังเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในโครงการที่มีพื้นฐานยอดเยี่ยมและสามารถเติบโตได้ เมื่อแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง

และในบทความนี้ ScalesBot จะมาแนะนำ 5 ตัวชี้วัดสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนจะลงทุนในโครงการต่างๆ ในช่วงตลาดหมีอันโหดร้ายและหนาวเหน็บ 

1.โครงการมี Use Case จริงๆ หรือไม่?

ตลาดคริปโทอาจจะนำเสนอโครงการที่มีความโดดเด่นและดูแปลกใหม่ แต่เมื่อมองเข้าไปให้ลึกถึงแก่นแท้ มันมีเพียงไม่กี่โครงการที่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานและก่อให้เกิดประโยชน์ได้จริง

ก่อนที่คุณจะลงทุนในโครงการใดๆ หนึ่งในคำถามหลักที่ต้องถามคือ “โครงการนี้คืออะไรและกำลังทำอะไรอยู่”

หากคุณครุ่นคิดและใช้เวลาซักพักสำหรับการหาคำตอบ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบง่ายๆ ที่สมเหตุสมผลสำหรับคำถามนี้ มันก็มีโอกาสสูงที่โครงการนั้นจะไม่ได้รับการยอมรับตามที่ต้องการจากผู้คน ซึ่งจะส่งผลต่อความอยู่รอดของโครงการในระยะยาว

2.โครงการอยู่ในตำแหน่งไหนของตลาด?

ในกรณีที่คุณสามารถหาคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคำถามข้อแรกในหัวข้อของ Use Case ได้ สิ่งถัดไปที่จะต้องพิจารณาก็คือ โครงการที่คุณจะลงทุนนั้นมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่มีรูปแบบเดียวกันอย่างไร, มีวิธีการแก้ปัญหาที่ดีกว่าหรือง่ายกว่าคู่แข่งหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่โครงการที่ซ้ำซากจำเจและไม่ได้นำเสนอสิ่งใหม่สู่ตลาด

ประเด็นสำคัญคือ คุณต้องรู้ว่าใครคือผู้นำในภาคส่วนนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น ในภาคส่วนของธุรกิจ Oracle เราได้เห็นโครงการจำนวนไม่น้อยเปิดตัวในช่วงสามปีที่ผ่านมา แม้จะมีตัวเลือกให้ใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ Oracle ที่เก่าแก่และมีการนำไปใช้อย่างกว้างขวางที่สุดนั้นก็คือ Chainlink (LINK) และยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจด้านนี้ที่แข็งแกร่งที่สุด

3.โครงการเหล่านั้นสร้างรายได้อย่างไร?

การดำเนินการในโครงการด้านบล็อกเชนั้นต้องใช้ทั้งเวลาและเงินจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่า โครงการที่มีรายได้หรือมีเงินทุนที่เพียงพอเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดในตลาดหมีได้

สิ่งสำคัญลำดับที่ 3 ที่นักลงทุนต้องทราบก็คือ โครงการเหล่านั้นหารายได้อย่างไร ทำกำไรได้หรือไม่ และรายได้เหล่านั้นพอสำหรับการดำเนินโครงการต่อไปหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้นักลงทุนสามารถพิจารณาได้ว่า หากโครงการนั้นมีรายได้และการใช้งานที่ลดลง มันก็อาจจะประเมินได้ว่าโครงการนั้นเป็นการลงทุนที่ควรหลีกเลี่ยง 

ผู้อ่านสามารถดูรายได้ของแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ที่ => https://tokenterminal.com/terminal

4.โครงการมีเงินสำรองหรือไม่?

สิ่งสำคัญลำดับที่ 4 ที่ต้องพิจารณาคือ โครงการนั้นมีเงินทุนสำรองที่เพียงพอสำหรับการเอาตัวรอดจากแนวโน้มขาลงหรือไม่ เพราะจากที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การดำเนินงานของโครงการบล็อกเชนนั้นมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ที่อยู่ในตลาดนั้นอาจจะมีสภาพคล่องที่ไม่เพียงพอที่จะอยู่รอดในตลาดหมี

การมีเงินทุกสำรองและได้รับการสนับสนุนที่ดีจะช่วยให้โครงการสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและเอาตัวรอดในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจะหลีกเลี่ยงโครงการใดๆ ก็ตามที่เก็บเงินทุนสำรองไว้ในสินทรัพย์เพียงชนิดเดียวหรือเก็บเงินทุนสำรองในรูปแบบของเหรียญดั้งเดิมของโครงการ เพราะมันจะไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนถ้าอยู่ในสภาวะที่วิกฤต และโครงการต้องเทขายเหรียญเหล่านั้นเมื่อต้องการใช้เงินสำรอง มูลค่าของสินทรัพย์ที่คุณถืออยู่ก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งคุณจะไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแน่ๆ เชื่อผมเถอะ

ดังนั้น ลงทุนในโครงการที่มีเงินสำรองเพียงพอและตรวจสอบให้ดีว่าโครงการเหล่านั้นเก็บเงินสำรองไว้ในสินทรัพย์ใด

5.โครงการสามารถทำตาม Roadmap ที่วางไว้ได้หรือไม่?

แม้ว่าผลการปฏิบัติงานในอดีตจะไม่ใช่ตัวบ่งชี้ถึงผลลัพธ์ในอนาคต แต่ประวัติของโครงการในการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนงานและสามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลาที่ได้วางไว้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนต้องพิจารณา 

สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ข้อมูลที่สำคัญกับนักลงทุนว่า โครงการนั้นกำลังทำงานกันอยู่จริงๆ ไม่ใช่เพียงคำโกหกหลอกลวงเพื่อหลอกเอาเงินจากนักลงทุนเท่านั้น

นอกเหนือจากการติดตาม Rodmap ของโครงการ เว็บไซต์อย่าง CryptoMiso และ GitHub ยังสามารถช่วยให้นักลงทุนคอยติดตามความถี่ของการพัฒนาและกิจกรรมของนักพัฒนาภายในโครงการนั้นๆ ได้อีกด้วย

หากโครงการนั้นมีการอัปเดตเพียงเล็กน้อยหรือแทบจะไม่มีการพัฒนาอะไรเลย แถมยังไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้ นักลงทุนควรจะพิจารณาถอยห่างจากโครงการเหล่านั้น เนื่องจาก การพัฒนาที่ล่าช้าและไม่ตรงกับแผนที่วางไว้นั้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโครงการ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การ Rug Pull หรือปิดโครงการในไม่ช้า 

Key Takeaways

5 ตัวชี้วัดสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะลงทุนในโครงการคริปโท

  1. Use Case
  2. ความได้เปรียบในตลาด
  3. รายได้ของโครงการ
  4. เงินสำรองของโครงการ
  5. Roadmap

สมัครสมาชิก ScalesBot วันนี้ ใช้งานฟรีทันที 7 วัน

ScalesBot A.I. เครื่องมือบริหารพอร์ตคริปโทฯ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการติดตามตลาด และสร้างกำไรได้จริงโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี A.I.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scalesbot.com/
หรือหากต้องการทดลอง Backtest ย้อนหลังก่อนตัดสินใจสมัคร https://app.scalesbot.com/backtest

อ้างอิง : LINK