fbpx

7 ข้อผิดพลาดสำคัญที่คุณอาจจะเคยเป็นสำหรับการทำ Technical Analysis 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ Technical Analysis เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและมีการปรับใช้มากที่สุด ซึ่งสามารถใช้กับตลาดการเงินต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ฟอเร็กซ์ ทองคำ หรือสกุลเงินดิจิทัล

การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ Technical Analysis นั้นเป็นศิลปะที่ยากที่จะเชี่ยวชาญ เมื่อคุณเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ มันเป็นเรื่องปกติที่จะทำผิดพลาดมากมายระหว่างทาง ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อต้องซื้อขายหรือลงทุนด้วยเงินจริงๆ หากคุณไม่ระมัดระวังและเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณ คุณอาจเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนส่วนสำคัญเหล่านั้นไป 

เพราะการเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่การหลีกเลี่ยงความผิดพลาดให้ได้มากที่สุดนั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

ดังนั้น ในบทความนี้ ScalesBot จะมาแนะนำผู้อ่านทุกท่านเกี่ยวกับข้อผิดพลาดที่นักลงทุนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าจะต้องพบเจอเมื่อใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค

1. การไม่ตัดขาดทุนหรือ Cutting Loss

เริ่มต้นด้วยคำกล่าวจาก Ed Seykota เทรดเดอร์มือฉมัง “องค์ประกอบของการซื้อขายที่ดีคือ (1) Cutting Loss (2) Cutting Loss และ (3) Cutting Loss หากคุณทำตามกฎสามข้อนี้ได้ คุณก็มีโอกาสที่จะอยู่รอดในตลาดได้

ดูเหมือนเป็นขั้นตอนง่ายๆ แต่มันก็ไม่ได้ขนาดนั้น เนื่องจากคุณต้องคอยเน้นย้ำถึงความสำคัญของสิ่งนี้อยู่เสมอ เพราะเมื่อพูดถึงการซื้อขายและการลงทุน การปกป้องเงินทุนนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งเสมอ

การตั้ง Stop Loss นั้นเป็นสิ่งง่ายๆ ที่จะทำให้การเทรดของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คุณควรจะมีจุดที่จะยอมแพ้ซึ่งเตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มลงทุน เพราะเมื่อราคาของสินทรัพย์ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณหวัง คุณก็ควรที่จะหยุด ยอมรับว่าแนวคิดทางการค้าของคุณผิดและกลับมาวางแผนกันใหม่  

หากคุณยังฝืนและดันทุรังปล่อยขาดทุนต่อไป มันก็จะส่งผลต่อการลงทุนของคุณในระยะยาว เพราะการลงทุนที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวนั้นอาจจะส่งผลร้ายต่อพอร์ตโฟลิโอของคุณได้อย่างมาก

2. การซื้อขายที่มากเกินไปหรือ Overtrading

เริ่มต้นกันอีกครั้งด้วยคำกล่าวจากเทรดเดอร์ชั้นเซียนอย่าง Jesse Livermore ที่เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก Day Trading “เงินสร้างได้จากการรออย่างอดทน ไม่ใช่การซื้อ/ขาย”

เมื่อคุณเป็นเทรดเดอร์ที่กระตือรือร้นมากเกินไป มันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีเท่าไหร่นักหาคุณคิดว่าจำเป็นต้องทำการซื้อ/ขายอยู่เสมอ เพราะการซื้อ/ขายนั้นเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์มากมายและการนั่งรออย่างอดทน! 

ด้วยกลยุทธ์การซื้อขายบางอย่าง คุณอาจต้องรอเป็นเวลานานเพื่อรับสัญญาณที่เชื่อถือได้เพื่อเข้าซื้อ/ขาย นักลงทุนบางรายอาจเข้าทำการซื้อ/ขายน้อยกว่าสามครั้งต่อปีและยังคงให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น

คุณไม่จำเป็นต้องทำการซื้อ/ขายเสมอไป ในความเป็นจริง ในบางสภาวะตลาด การไม่ทำอะไรเลยและรอโอกาสที่สำคัญนั้นทำกำไรได้มากกว่า และด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถรักษาเงินทุนของคุณและพร้อมสำหรับโอกาสที่ดีที่สุดซึ่งกำลังจะเข้ามาในอนาคต

จำไว้เสมอว่า “โอกาสจะกลับมาเสมอ คุณแค่ต้องรอมัน”

การวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่ทำในกรอบเวลาที่สูงกว่านั้นจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการวิเคราะห์ที่ทำในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า ดังนั้น การซื้อ/ขายในกรอบเวลาที่ต่ำอาจจะได้รับผลกระทบจากสัญญาณรบกวนในตลาดและอาจจะส่งผลให้การซื้อขายในกรอบเวลาที่ต่ำกว่ามักจะนำมาซึ่งอัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทน(risk/reward ratio) ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก 

3. การซื้อ/ขายเพื่อการแก้แค้นหรือ Revenge trading

เป็นเรื่องปกติที่นักเทรดจะต้องเจอกับการขาดทุนครั้งใหญ่และพยายามที่จะหาทางเพื่อเอาคืนการขาดทุนครั้งนั้นด้วยการซื้อ/ขายที่มีความเสี่ยงมากกว่าเดิม และนี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าการซื้อ/ขายเพื่อการแก้แค้นหรือ Revenge trading 

ไม่ว่าคุณจะเป็น Technical Analyst, Day Trader หรือ Swing Trader การตัดสินใจด้วยเหตุผลและไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

เพราะนักลงทุนที่ดีนั้นต้องไม่เหลิงเมื่อสิ่งต่างๆ เป็นไปด้วยดีและต้องสงบสติอารมณ์ได้เมื่อเหตุการณ์นั้นไม่เป็นใจ เพราะไม่ว่าคุณจะทำกำไรมาได้ง่ายดายขนาดไหนในยามตลาดหมี แต่มันมีคำถามสำคัญอย่าง คุณสามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่อสิ่งต่างๆ ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิงหรือไม่? คุณสามารถทำตามแผนการซื้อขายของคุณแม้ว่าคนอื่นจะตื่นตระหนกหรือไม่? และมันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับตลาดหมีที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

ดังนั้น คุณควรใจเย็นไว้แม้จะเกิดข้อผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุด หลีกเลี่ยงการตัดสินใจด้วยอารมณ์และมุ่งเน้นไปที่การรักษาความคิดเชิงตรรกะและการวิเคราะห์ เพราะการซื้อขายทันทีหลังจากประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การขาดทุนที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนบางรายจึงไม่ทำการซื้อขายในช่วงระยะเวลาหนึ่งหลังจากการขาดทุนครั้งใหญ่ ทำให้พวกเขาสามารถเริ่มต้นใหม่และกลับไปซื้อ/ขายอย่างมีสติและทำตามแผนที่วางไว้

4. ดื้อรั้นเกินกว่าที่จะยอมรับความจริง

หากคุณต้องการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนใจด้วยเหตุผลที่มากเพียงพอ เพราะสภาวะตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

และสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นงานของคุณในฐานะนักลงทุนคือ การรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นและปรับตัวให้เข้ากับมันอย่างรวดเร็วที่สุด 

เพราะกลยุทธ์หนึ่งที่เคยทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมหนึ่ง อาจจะไม่ได้ผลกับสภาวะตลาดหนึ่ง

แนวปฏิบัติที่ดีคือ พยายามมองให้รอบด้านและอย่าไว้วางใจในสิ่งต่างๆ มากเกินไปเพื่อดูจุดอ่อนที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยวิธีนี้ การลงทุนและการตัดสินใจของคุณจะมีความครอบคลุมมากขึ้น

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังก็คือ อคติ เพราะอคตินั้นอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจและจำกัดขอบเขตของความเป็นไปได้ที่คุณสามารถพิจารณาได้ คุณต้องเข้าใจอคติที่อาจส่งผลต่อแผนการซื้อขายของคุณ เพื่อที่คุณจะได้หาทางจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. เพิกเฉยต่อสภาวะตลาดที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง

ในท้ายที่สุด ตลาดนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์และอุปทานของมนุษย์ และอาจมีบางครั้งที่ตลาดเกิดความผันผวนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่าง Relative Strength Index (RSI) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมของราคา หากค่าที่อ่านได้ต่ำกว่า 30 สินทรัพย์ที่อยู่ในแผนภูมิอาจถูกพิจารณาว่ามีการขายมากเกินไป นี่หมายความว่ามันเป็นสัญญาณการเข้าซื้อทันทีเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 หรือไม่? ไม่ใช่อย่างแน่นอน! มันหมายความว่าโมเมนตัมของตลาดถูกกำหนดโดยฝ่ายขายในปัจจุบัน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็บ่งบอกว่าผู้ขายแข็งแกร่งกว่าผู้ซื้อ มันอาจจะลดลงเหลือหลักเดียวก็เป็นได้ เพราะแม้แต่ค่าที่อ่านได้ว่าเป็นการขายมากเกินไปก็อาจไม่ได้หมายความว่าการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้นนั้นจะเกิดขึ้น

การตัดสินใจอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าโดยอาศัยเครื่องมือทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวนั้นอาจทำให้คุณเสียเงินจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเหตุการณ์ที่ตลาดนั้นเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงอย่าง Black Swan ที่จะทำให้การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคนั้นทำได้ยากเป็นพิเศษ

ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย และไม่พึ่งพาเครื่องมือเพียงตัวเดียว

6. มั่นใจในการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากเกินไปและลืมว่ามันเป็นเพียงเป็นเกมแห่งความน่าจะเป็น

การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นไม่ได้บ่งบอกหรือนำเสนอข้อมูลที่มีความแม่นยำ 100% สิ่งนี้นำเสนอเพียงความน่าจะเป็น ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะใช้กลยุทธ์ทางเทคนิคใดก็ตาม มันก็จะไม่มีทางรับประกันได้ว่าคุณจะสามารถทำกำไรได้ตามที่คุณคาดหวังเสมอไป 

ดังนั้น ตามที่ได้กล่าวมาข้างบนคุณควรก็จะใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคมากกว่า 1 ประเภทและใช้ข้อมูลต่างๆ ประกอบการตัดสินใจลงทุน เพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพที่สุด 

7. ซื้อ/ขายตามผู้อื่นโดยไม่มีแผนของตนเอง

การพัฒนาฝีมือของคุณอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการเชี่ยวชาญในทักษะใดๆ ก็ตาม หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้คือ การติดตามและเรียนรู้จากนักวิเคราะห์ทางเทคนิคและนักลงทุนที่มีประสบการณ์

อย่างไรก็ตาม คุณก็ควรจะหาจุดแข็ง/จุดอ่อนของตนเองและไม่เชื่อในสัญญาณการเข้าซื้อจากคนอื่นมากเกินไป เพราะการเข้าซื้อ/ขายตามการวิเคราะห์ของคนอื่นนั้นอาจได้ผลอยู่ 2-3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม หากคุณเพียงแค่สุ่มสี่สุ่มห้าซื้อ/ขายตามนักลงทุนคนอื่นโดยไม่เข้าใจบริบทพื้นฐาน มันจะไม่ได้ผลในระยะยาวอย่างแน่นอน

นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรติดตามและเรียนรู้จากผู้อื่น สิ่งสำคัญคือคุณเห็นด้วยกับแนวคิดของนักลงทุนเหล่านั้นหรือไม่และแผนของพวกเขานั้นเข้ากับระบบการซื้อขายของคุณหรือไม่? คุณไม่ควรติดตามผู้ค้ารายอื่นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าแม้ว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์และมีชื่อเสียงก็ตาม

อ่านมาขนาดนี้ แต่รู้สึกว่ายาวและยังไม่เข้าใจทั้งหมด ทำยังไงดีน้า?

ScalesBot คือคำตอบที่คุณกำลังตามหา ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การลงทุนของคุณได้ 

ScalesBot A.I. (สเกลบอท เอไอ) เป็นเครื่องมือเทรดอัตโนมัติในตลาดคริปโทที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ตั้งค่าผ่านเว็บไซต์ หลังจากนั้น A.I. จะทำงานเทรดตามกลยุทธ์ที่ผู้ใช้งานเลือก ไม่ว่าจะเป็น

  • ScalesBot มีฟังก์ชันการทำ Backtesting ให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้ เพื่อค้นหากลยุทธ์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้พอร์ตการลงทุนของคุณ
  • ScalesBot มีการปรับใช้ RSI ในกลยุทธ์การบริหารจัดการพอร์ต ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและช่วยให้พอร์ตของนักลงทุนเติบโตอย่างมั่นคง
  • เทรดบน Spot Wallet
  • ปรับพอร์ตอัตโนมัติตามเทรนด์ของตลาด
  • ปรับขนาดของการถือครองเหรียญโดยอัตโนมัติ
  • หยุดการคาดเดา เพราะเราใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์และตอบคำถาม
  • ดูแลทั้งพอร์ต ไม่ใช่แค่คู่เหรียญ
  • การตั้งค่า Stop Loss ในกรณีที่ต้องการจัดการความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง
  • โฟกัสสร้างกำไร ไม่ใช่ Cashflow
  • เชื่อมต่อปลอดภัยผ่าน API
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนสาย HOLDER

และด้วยฟังก์ชันการเชื่อมต่อผ่าน API ทำให้ผู้ใช้งานบอทของเราสบายใจได้ว่าสินทรัพย์ของพวกเขานั้นจะปลอดภัยหายห่วง เพราะการเชื่อมต่อผ่านทาง API โดยตรงจะสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงได้ ทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลว่าบอทจะโยกย้ายเงินของคุณไปที่ไหนรึเปล่า ยิ่งไปกว่านั้น เงินทั้งหมดจะอยู่ในบัญชีของคุณ คุณไม่ต้องโอนเงินมาฝากที่เราแม้แต่บาทเดียว ถ้าหากคุณต้องการปิดการทำงานของบอท คุณก็สามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย เพียงล็อกอินผ่านหน้าเว็บไซต์ คุณก็สามารถที่จะเข้ามาเปิดหรือปิดการทำงานของบอทได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ต้องการ

Always DYOR & Enjoy Using ScalesBot!

อ้างอิง: LINK

สมัครสมาชิก ScalesBot วันนี้ ใช้งานฟรีทันที 7 วัน

ScalesBot A.I. เครื่องมือบริหารพอร์ตคริปโทฯ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการติดตามตลาด และสร้างกำไรได้จริงโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี A.I.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scalesbot.com/
หรือหากต้องการทดลอง Backtest ย้อนหลังก่อนตัดสินใจสมัคร https://app.scalesbot.com/backtest