Relative Strength Index หรือ RSI ถูกคิดค้นโดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิค J. Welles Wilder ในศตวรรษที่ 18 และได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน ตัวชี้วัดนี้จะถูกใช้เพื่อวัดการแกว่งตัวของราคาว่ามีภาวะการซื้อมากเกินไปหรือการขายมากเกินไป ซึ่งจะช่วยระบุว่าเมื่อใดที่ราคาของสินทรัพย์นั้นเริ่มมีราคาที่อยู่ห่างไกลจากมูลค่า “จริง” ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้ก่อนที่ตลาดจะเกิดการปรับฐาน ยิ่งไปกว่านั้น RSI จะทำให้นักลงทุนรับรู้ถึงสภาวะของตลาด ณ ขณะนั้น ทำให้ RSI นั้นเหมาะสำหรับตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่ผันผวนเป็นอย่างมาก
RSI นั้นใช้สูตรในการคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อนในการพิจารณาว่าสินทรัพย์นั้นมีการซื้อหรือขายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าสูตรการคำนวณคืออะไร ก็สามารถใช้งานตัวชี้วัดนี้ได้ แต่ถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก เราก็มีข้อมูลมานำเสนอครับ
สูตรคำนวณ RSI
RSI = 100 –(100/(1+RS))
ซึ่งการคำนวณจะได้มาจากสูตรคณิตศาสตร์เบื้องต้น คือ RS = Average Gain /Average Loss
โดย Average gain คือ ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่เป็นบวกย้อนหลัง 14 แท่งเทียน และ Average loss คือ ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนที่เป็นลบย้อนหลัง 14 แท่งเทียน
ซึ่งส่วนใหญ่การคำนวณจะนิยมใช้ช่วง 14 แท่งเทียน แต่นักลงทุนสามารถกำหนดจำนวนแท่งเทียนที่ใช้ในการคำนวณได้ ขึ้นอยู่กับสไตล์ของนักลงทุนแต่ละท่าน
โดยค่าที่ได้จะแสดงเป็นกราฟเส้นที่สามารถอ่านค่าได้ตั้งแต่ 0 – 100 ซึ่งสินทรัพย์จะถูกพิจารณาว่าถูกตีราคาว่าต่ำหรือเกิดการ “ขายมากเกินไป” เมื่อ RSI ลดลงต่ำกว่า 30 ในทางกลับกัน สินทรัพย์นั้นจะถูกตีราคาว่าสูงหรือเกิดการ “ซื้อมากเกินไป” เมื่อ RSI มีค่าสูงกว่า 70
วิธีการปรับใช้ RSI กับการลงทุนของคุณ
- การซื้อมากเกินไปหรือ Overbought
หาก RSI สูงกว่าระดับ 70 แสดงว่าราคาของสินทรัพย์นั้นเกิดการซื้อมากเกินไปและนั้นอาจจะนำไปสู่การปรับฐานในอนาคตอันใกล้ ซึ่งนักลงทุนสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้และทำการขายเพื่อกำไรจากการลงทุนของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ นักลงทุนไม่สามารถพึ่งพาตัวชี้วัดนี้เพียงตัวเดียวในการลงทุนได้ ดังที่ได้เห็นตามกราฟด้านบน ราคา BTC ยังคงเพิ่มสูงขึ้นแม้ RSI จะพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 70 ดังนั้น นักลงทุนควรจะใช้ตัวชี้วัดอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อประสิทธิภาพของการลงทุนที่ดีที่สุด
- การขายมากเกินไปหรือ Oversold
เมื่อ RSI ลดต่ำกว่าระดับ 30 แสดงว่าราคาของสินทรัพย์นั้นจะลดลง เนื่องจากสินทรัพย์นั้นจะอยู่ในสภาวะที่ขายมากเกินไปและอาจจะนำไปสู่การฟื้นตัวของราคาหรือกลับตัวในอนาคต ซึ่งนักลงทุนสามารถพิจารณาหาจังหวะในการเข้าซื้อได้
ตามที่แสดงให้เห็นในกราฟข้างบน RSI ของ Bitcoin ในรายวันนั้นลดลงต่ำกว่าหรือเกือบถึง 30 นั้นแสดงให้เห็นถึงสภาวะการขายที่มากเกินไป ซึ่งราคาของ Bitcoin นั้นได้กลับเทรนด์และเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ RSI ลงไปต่ำกว่า 30 ในแต่ละครั้ง
- Bullish Divergence
เมื่อ RSI เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับราคา ก็จะแสดงให้เห็นถึงราคาของสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
- Bearish divergence
เมื่อ RSI กำลังลดต่ำลง ในขณะที่ราคาของสินทรัพย์กำลังสูงขึ้น ก็จะแสดงให้เห็นถึงราคาของสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง
Key Takeaways
การใช้ RSI เพื่อจับจังหวะการซื้อขายในช่วงที่มีการซื้อหรือขายมากเกินไปนั้นเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลงทุน นักลงทุนสามารถพิจารณาที่จะเข้าซื้อหรือเทขายเมื่อค่าของ RSI เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้การใช้ตัวชี้วัดอื่นๆ ประกอบไปกับการใช้ RSI ก็จะทำให้การลงทุนของคุณนั้นมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
จงเตรียมแผนให้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น อย่ารอให้ RSI ลงไปถึง 0 หรือ 100 แล้วค่อยเข้าซื้อหรือเทขาย เพราะมันแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย!
อ่านมาถึงจุดนี้ มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแต่ไม่มีเวลามากพอที่จะ monitor พอร์ตการลงทุนของคุณ
ScalesBot คือคำตอบที่คุณกำลังตามหา ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การลงทุนของคุณได้
ScalesBot A.I. (สเกลบอท เอไอ) เป็นเครื่องมือเทรดอัตโนมัติในตลาดคริปโทที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ตั้งค่าผ่านเว็บไซต์ หลังจากนั้น A.I. จะทำงานเทรดตามกลยุทธ์ที่ผู้ใช้งานเลือก ไม่ว่าจะเป็ฯ
- เทรดบน Spot Wallet
- ปรับพอร์ตอัตโนมัติตามเทรนด์ตลาด
- ปรับขนาดถือครองเหรียญอัตโนมัติ
- หยุดการคาดเดา ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์และตอบคำถาม
- ดูแลทั้งพอร์ต ไม่ใช่แค่คู่เหรียญ
- การตั้งค่า Stop Loss ในกรณีที่ต้องการจัดการความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง
- โฟกัสสร้างกำไร ไม่ใช่ Cashflow
- เชื่อมต่อปลอดภัยผ่าน API
- เหมาะสำหรับนักลงทุนสาย HOLDER
และด้วยฟังก์ชันการเชื่อมต่อผ่าน API ทำให้ผู้ใช้งานบอทของเราสบายใจได้ว่าสินทรัพย์ของพวกเขานั้นจะปลอดภัยหายห่วง เพราะการเชื่อมต่อผ่านทาง API โดยตรงจะสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงได้ ทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลว่าบอทจะโยกย้ายเงินของคุณไปที่ไหนรึเปล่า ยิ่งไปกว่านั้น เงินทั้งหมดจะอยู่ในบัญชีของคุณ คุณไม่ต้องโอนเงินมาฝากที่เราแม้แต่บาทเดียว ถ้าหากคุณต้องการปิดการทำงานของบอท คุณก็สามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย เพียงล็อกอินผ่านหน้าเว็บไซต์ คุณก็สามารถที่จะเข้ามาเปิดหรือปิดการทำงานของบอทได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ต้องการ
Always DYOR & Enjoy Using ScalesBot!
สมัครสมาชิก ScalesBot วันนี้ ใช้งานฟรีทันที 7 วัน
ScalesBot A.I. เครื่องมือบริหารพอร์ตคริปโทฯ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการติดตามตลาด และสร้างกำไรได้จริงโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี A.I.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scalesbot.com/
หรือหากต้องการทดลอง Backtest ย้อนหลังก่อนตัดสินใจสมัคร https://app.scalesbot.com/backtest
อ้างอิง : LINK
