อะไรเป็นตัวกำหนดราคาของ Bitcoin?

1.Bitcoin มีมูลค่าได้อย่างไร?

Bitcoin (BTC) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ได้ถูกกำกับดูแลโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานทางกฎหมายใดๆ และเป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับสกุลเงิน Fiat เช่น ดอลลาร์ ปอนด์ ยูโร และเยน โดยการสร้าง จัดเก็บ และโอนย้าย Bitcoin นั้นจำเป็นต้องมีเครือข่ายของผู้ใช้และโปรโตคอลสำหรับการเข้ารหัสที่มีการกระจายอำนาจ

Bitcoin จะทำให้นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมได้โดยตรงโดยไม่ต้องใช้พ่อค้าคนกลาง เครือข่าย Peer-to-Peer ของ Bitcoin นั้นจะช่วยขจัดข้อจำกัดทางการเงินในรูปแบบเดิมและทำให้ผู้คนสามารถทำธุรกรรมได้อย่างคล่องตัว 

Satoshi Nakamoto ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด Bitcoin ได้นำเสนอสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกของโลกในช่วงปี 2008 และเปิดตัวในเดือนมกราคม 2009 

 แล้วอะไรล่ะที่เป็นตัวกำหนดมูลค่าของ Bitcoin ?

คำตอบคือ อุปสงค์และอุปทานก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ส่งผลต่อราคาและเป็นตัวกำหนดมูลค่าของ Bitcoin ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 จะเพิ่มสูงขึ้นหากมีผู้ซื้อมากกว่าผู้ขายและราคาจะลดลงเมื่อผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ ซึ่งราคาของ Bitcoin ในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัว เนื่องจากธุรกิจหรือบริษัทชั้นนำเริ่มหันมายอมรับ Bitcoin เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 นั้นมีมูลค่าและการใช้งานที่แท้จริงเพิ่มขึ้นมา 

2.ปัจจัยใดบ้างที่อาจส่งผลต่อราคาของ Bitcoin?

• อุปสงค์และอุปทาน

กลไกตลาดอุปสงค์และอุปทานจะทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดราคาตลาดและปริมาณของสินค้าโภคภัณฑ์ ยกตัวอย่างเช่น ความต้องการสินค้าทางเศรษฐกิจจะลดลงเมื่อราคาเพิ่มขึ้น เป็นต้น

โดยเหตุการณ์ที่เรียกว่า Bitcoin Halving นั้นจะส่งผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin เนื่องจากเหตุการณ์นี้จะทำให้อุปทานของ Bitcoin นั้นลดลงครึ่งหนึ่ง หากสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 นี้มีความต้องการเพิ่มขึ้น เราก็อาจจะได้เห็นราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นก็เป็นได้

นอกจากนี้ อุปทานของ Bitcoin ยังถูกกำหนดให้มีเพียง 21 ล้านเหรียญและจะไม่มีการสร้างเพิ่มเติมอีก ดังนั้น สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อและสามารถเป็น Store of Value ให้กับผู้คนได้ โดยเมื่อ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาจนครบทั้งหมด สิ่งที่กำหนดมูลค่าของ Bitcoin จะถูกกำหนดจากการใช้งานจริงแทน

• ต้นทุนด้านการผลิต

ต้นทุนการผลิตสำหรับ Bitcoin นั้นรวมไปถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนใน Hardware ค่าไฟฟ้าสำหรับการขุดและระดับความยากของอัลกอริทึมทางคณิตศาสตร์  ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานของ Bitcoin และมีผลต่อราคาเช่นเดียวกัน

• กฎระเบียบและข้อบังคับ

กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น เอลซัลวาดอร์ที่มีการออกกฎหมายยอมรับว่า Bitcoin นั้นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายตรงกันข้ามกับประเทศจีนที่ห้ามทำธุรกรรมทุกอย่างที่มีความเกี่วข้องกับสกุลเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ก็ส่งผลต่อราคาของ Bitcoin เนื่องจากความไม่แน่นอนของกฎระเบียบที่มีนั้นสร้างความกลัวและความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน ทำให้มูลค่าของ Bitcoin นั้นมีความผันผวนสูงมาก

3.ทำไมราคา Bitcoin ถึงผันผวนขนาดนี้?

ราคาของ Bitcoin นั้นเป็นสิ่งที่มีความอ่อนไหวและไวต่อข่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมูลค่าของ Bitcoin นั้นยังถือว่าค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้ราคาของ สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 นั้นได้รับผลกระทบจากสื่อหรือความเห็นจากผู้ที่มีอิทธิพลในตลาดได้ ยกตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับความตั้งใจของ Tesla ที่จะยอมรับ Bitcoin ทำให้มูลค่าของ Bitcoin นั้นเพิ่มสูงขึ้นและเมื่อ Tesla ออกมาประกาศว่าจะไม่รับ Bitcoin เป็นช่องทางในการชำระเงิน ราคาของ Bitcoin ก็ได้รับผลกระทบจากการประกาศในครั้งนั้นและลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

ดังนั้น Bitcoin จึงยังเป็นสินทรัพย์ชนิดหนึ่งที่มีความผันผวนสูงและไวต่อข่าวที่เกิดขึ้นในตลาดเป็นอย่างมาก

4.จะเกิดอะไรขึ้นหากราคาของ Bitcoin ลดลงเหลือ 0

หากราคาของ BTC ลดลงเหลือศูนย์ มันจะส่งผลกระทบต่อผู้ค้า,นักลงทุนสถาบัน,ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ, บริษัทที่ให้บริการและเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลและระบบการเงินดิจิทัลทั้งหมด

สมมติว่าราคาของ Bitcoin ลดลงเหลือศูนย์ มันจะส่งผลกระทบต่อราคาของสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากนั้นจำเป็นต้องทำการเทขายเพื่อลดความสูญเสียต่อการลงทุนของพวกเขา 

การลดลงของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 จนเหลือ 0 ก็จะทำให้นักลงทุนจำนวนมากในตลาดหมดความศรัทธาในระบบที่พังทลายและนั้นจะส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือบริษัทที่ให้บริการด้านสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Coinbase และ Binance อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น องค์กรดังกล่าวอาจไม่สามารถจ้าง จ่ายเงิน หรือดึงดูดบุคลากรที่จำเป็นในการดำเนินการและขยายกิจการได้อีกต่อไป 

เมื่อใดก็ตามที่ราคาของ Bitcoin ลดลงจนเหลือ 0 ผู้คนมากมายก็จะหันหลังให้กับตลาดสกุลเงินดิจิทัลและนักลงทุนก็อาจจะต้องเจอกับสภาวะตลาดที่ยากที่สุดก็เป็นได้

อ้างอิง: LINK