fbpx

Tulip Mania คืออะไร? ความคลุ้มคลั่งใน Bitcoin จะทำให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือไม่?

ความคลุ้มคลั่งในดอกทิวลิป หรือ Tulip mania คือเหตุการณ์ฟองสบู่ทางการเงินครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ แล้ว Bitcoin แตกต่างจากดอกทิวลิปหรือไม่? จะเกิดฟองสบู่ซ้ำรอยอีกไหม?

หลายคนมองว่า Tulip Mania นั้นเป็นดั่งเหตุการณ์ฟองสบู่ทางการเงินครั้งแรกที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกการเงิน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1600 แล้ว Tulip Mania เป็นเหตุการณ์ฟองสบู่ทางการเงินจริงๆ หรือไม่?

ScalesBot จะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ Tulip Mania ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นครับ 

Tulip Mania Bubble

Tulip Mania เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์ ในขณะนั้น เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดในโลก เนื่องจากการค้าระหว่างประเทศที่กำลังเติบโต

ความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจช่วยให้ผู้คนจำนวนมากมีความมั่งคั่ง และความมั่งคั่งนี่เองที่ทำให้ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยเติบโตเป็นอย่างมาก และสิ่งของที่ผู้คนอยากได้มากที่สุดอย่างหนึ่งในตอนนั้นก็คือ “ดอกทิวลิป” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอกที่มีการกลายพันธุ์และมีความสวยงามยิ่งกว่าดอกไม้ทั่วไป 

ดังนั้น ผู้คนจึงต้องการดอกทิวลิป เพื่อแสดงฐานะทางสังคมด้วยดอกไม้ที่มีสีและลวดลายที่โดดเด่น

เมื่อ Demand เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ราคาของดอกทิวลิปจึงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ส่งผลให้ในขณะนั้น ราคาของดอกทิวลิปเพียงดอกเดียวนั้นสูงกว่ารายได้ของช่างฝีมือหรือราคาบ้านทั้งหลัง ไม่เพียงเท่านั้น ผู้คนมากมายยังได้ทำการสร้างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งได้ผลักดันราคาของดอกทิวลิปให้สูงขึ้นไปอีก 

อย่างไรก็ตาม เมื่อความต้องการดอกทิวลิปเพิ่มมากขึ้นจนถึงจุดนึง เกษตรกรจำนวนมากก็เริ่มที่จะปลูกดอกทิวลิปมากขึ้นเรื่อยๆ ในท้ายที่สุดอุปทานของดอกทิวลิปก็สูงเกินไป ทำให้ตลาดของดอกทิวลิปเข้าสู่จุดอิ่มตัวในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1637 จู่ๆ ผู้ซื้อก็ขาดตลาด ประกอบกับการประมูลดอกทิวลิปที่ล้มเหลวในเมืองฮาร์เล็ม ทำให้เกิดความกลัวและความตื่นตระหนกในหมู่นักลงทุน ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ฟองสบู่แตกภายในไม่กี่วันและทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมากต่อนักลงทุนที่ลงทุนในดอกทิวลิป 

แล้วเหตุการณ์ในครั้งนี้เกี่ยวอะไรกับ Bitcoin?

Tulip Mania กับ Bitcoin

Tulip Mania ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของเหตุการณ์ฟองสบู่แตก ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความโลภและโฆษณาที่เกินจริงซึ่งทำให้ราคาดอกทิวลิปพุ่งขึ้นไปเกินกว่าระดับที่สมเหตุสมผล ผู้คนที่เริ่มลงทุนตั้งแต่ต้นได้ทำกำไรและออกไปจากตลาด ในขณะที่ผู้ที่มาทีหลังต้องเจอกับการล่มสลายครั้งใหญ่และสูญเสียเงินจำนวนมากไปกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ในช่วงแรก Bitcoin ก็ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นดั่งดอกทิวลิปและนักวิเคราะห์มากมายก็มองว่า Bitcoin จะกลายเป็นฟองสบู่ทางการเงินฟองต่อไป แต่การเชื่อมโยงระหว่าง Tulip Mania และ Bitcoin ก็ไม่ได้สำเร็จ เนื่องจากประเภทของสินทรัพย์และสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน สภาพแวดล้อมทางการเงินในปัจจุบันของเรานั้นแตกต่างไปจากปี 1637 อย่างสิ้นเชิง อีกทั้ง ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็มีความแตกต่างจากตลาดการเงินแบบดั้งเดิมค่อนข้างมาก 

ความแตกต่างที่สำคัญ

หนึ่งในความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างดอกทิวลิปและ Bitcoin คือศักยภาพในการเป็นตัวเก็บมูลค่า (Store of Value) ดอกทิวลิปมีอายุที่จำกัด และไม่มีความหลากหลายหรือลักษณะที่แน่ชัดของดอกไม้ พ่อค้าจะต้องปลูกมันและหวังว่าดอกไม้เหล่านั้นจะให้สีที่โดดเด่นและสวยงามพอที่จะทำให้ผู้ซื้อสนใจ นอกจากนั้น หากพวกเขาต้องการส่งดอกทิวลิป พวกเขาต้องจัดหาและเตรียมวิธีในการจัดส่งทิวลิปให้ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้นั้นมีค่าใช้จ่ายและมีวิธีการที่ซับซ้อน 

ไม่เพียงเท่านั้น ดอกทิวลิปยังไม่เหมาะสมที่ใช้สำหรับการชำระเงินเนื่องจากดอกทิวลิปไม่สามารถแบ่งออกเป็นส่วนเล็กๆ ได้ เนื่องจากมันอาจจะทำให้ดอกไม้เหล่านั้นล้มตายได้ นอกจากนี้ การเก็บรักษาดอกไม้เหล่านี้ก็ไม่ได้ง่ายดายและทุกอย่างก็มีค่าใช้จ่าย ดอกทิวลิปยังอาจถูกขโมยได้อย่างง่ายจากทุ่งหรือแผงขายของในตลาด เพราะฉะนั้น ดอกทิวลิปจึงมีค่าใช้จ่ายมากมายในการรักษาดูแลและการขายมันออกไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อความต้องการของผู้ซื้อลดลง 

ในทางตรงกันข้าม Bitcoin ซึ่งเป็นสินทรัพย์แบบดิจิทัลและสามารถถ่ายโอนได้ภายในเครือข่ายแบบ Peer-to-Peer ที่มีอยู่ทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความปลอดภัยด้วยเทคนิคการเข้ารหัสที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 นี้มีความทนทานต่อการปลอมแปลงหรือการฉ้อโกง อีกทั้ง Bitcoin ไม่สามารถคัดลอกหรือทำลายได้และยังสามารถที่จัแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยๆ หลายหน่วยได้อย่างง่ายดาย 

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ Bitcoin ที่แตกต่างกับดอกทิวลิปอย่างสิ้นเชิงก็คือ Bitcoin มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ ทำให้เมื่อ Supply มีจำกัดและด้วยกลไกการทำงานแบบ PoW ทำให้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่สามารถเป็นตัวเก็บมูลค่าและจะมีความหายากมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป และด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ Bitcoin จึงแตกต่างจากดอกทิวลิปอย่างสิ้นเชิง 

บทสรุป

ด้วยคุณมบัติของ Bitcoin ที่กล่าวไปข้างต้น การเปรียบเทียบระหว่างดอกทิวลิปและ Bitcoin จึงดูไม่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน (รวมไปถึงการเปรียบเทียบระหว่างดอกทิวลิปและสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ด้วย) ด้วยบริบททางประวัติศาสตร์ที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และดอกไม้ก็ไม่สามารถนำไปเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลได้ 

อย่างไรก็ตาม ฟองสบู่ในโลกแห่งการเงินนั้นสามารถเกิดได้ในทุกๆ สินทรัพย์ ดังนั้น นักลงทุนทุกคนจึงควรศึกษาหาความรู้และจัดการกับความเสี่ยงให้ดีที่สุดเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกสกุลเงินดิจิทัลที่ทำให้ความรู้สึกของนักลงทุนแต่ละคนราวกับนั่งอยู่บนรถไฟเหาะ

สมัครสมาชิก ScalesBot วันนี้ ใช้งานฟรีทันที 7 วัน

ScalesBot A.I. เครื่องมือบริหารพอร์ตคริปโทฯ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการติดตามตลาด และสร้างกำไรได้จริงโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี A.I.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scalesbot.com/
หรือหากต้องการทดลอง Backtest ย้อนหลังก่อนตัดสินใจสมัคร https://app.scalesbot.com/backtest

อ้างอิง : LINK