ทุก ๆ 4 ปี จำนวน Bitcoin ที่ถูกขุดขึ้นมาและเป็นรางวัลให้กับนักขุดจะลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเราจะเรียกกระบวนการนี้ว่า Bitcoin Halving (หรือ Halvening) และในบทความนี้ ScalesBot พาทุกท่านไปทำความรู้จักกับกิจกรรมครั้งสำคัญของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 นี้กันครับ
1.Bitcoin Halving คืออะไร?
Bitcoin Halving จะถูกฝังอยู่ในโค้ดของ Bitcoin ที่ถูกจำกัดอุปทานทั้งหมดให้อยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ โดยจะถูกสร้างขึ้นผ่านการขุด ซึ่ง Bitcoin ที่ถูกขุดออกมานั้นจะเป็นรางวัลให้กับนักขุดที่ทำการตรวจสอบธุรกรรมและการรักษาความปลอดให้กับเครือข่ายของ Bitcoin
อย่างไรก็ตาม ทุกๆ 4 ปี รางวัลสำหรับการขุดจะลดลงครึ่งหนึ่ง โดยการลดแต่ละครั้งจะลดอัตราการสร้าง Bitcoin ใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะเกิดขึ้นจนถึงปี 2140
Bitcoin จำนวน 1 ล้าน เหรียญแรกถูกขุดขึ้นมาโดย Satoshi Nakamoto ซึ่งเป็นผู้สร้าง Bitcoin ในปี 2009
นับตั้งแต่นั้นมา Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมา 19,099,050 เหรียญแล้ว ซึ่งคิดเป็นประมาณ 90% ของอุปทานทั้งหมด โดยเหลือ Bitcoin อีกประมาณ 1.95 ล้านเหรียญเท่านั้นที่จะถูกสร้างขึ้นมา
2.ประวัติของ Bitcoin Halving
- 2009 – รางวัลจากการขุด Bitcoin นั้นเริ่มต้นที่ 50 BTC/บล็อก
- 2012 – การ Halving ของ Bitcoin ครั้งแรกได้เริ่มต้นขึ้นและลดรางวัลจากการขุดลงเหลือ 25 BTC/บล็อก
- 2016 – การ Halving ของ Bitcoin ครั้งที่สองและลดรางวัลจากการขุดลงเหลือ 12.5 BTC/บล็อก
- 2020 – การ Halving ของ Bitcoin ครั้งที่สองและลดรางวัลจากการขุดลงเหลือ 6.25 BTC/บล็อก
- 2140 – การ Halving ครั้งที่ 64 และจะเป็ฯครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้น ซึ่งจะไม่มีการสร้าง Bitcoin ใหม่อีกต่อไป
3.Bitcoin Halving นั้นพิเศษอย่างไร?
Bitcoin Halving จะทำให้จำนวน Bitcoin ที่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่นั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ Max Supply ของ Bitcoin ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีการสร้างเพิ่ม ทำให้ไม่เกิดปัญหาเงินเฟ้อกับสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 อย่าง Bitcoin ซึ่งแตกต่างกับเงิน Fiat ที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลของแต่ละประเทศและต้องประสบกับปัญหาเงินเฟ้อที่ร้ายแรง และในปัจจุบัน เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาก็เพิ่มขึ้นกว่า 9.1% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา
4.Bitcoin Halving จะส่งผลอย่างไรต่อนักขุด Bitcoin?
นักขุด Bitcoin คือผู้ที่ลงทุนในฮาร์ดแวร์สำหรับการขุดที่มีความเฉพาะทางและค่าใช้จ่ายนี้ถูกชดเชยด้วยรางวัลการขุด
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเกิด Bitcoin Halving และรางวัลของพวกเขาลดลงครึ่งหนึ่ง?
เนื่องจากการลดรางวัลลงจำนวนลงครึ่งหนึ่งทำให้ผลตอบแทนลดลง แรงจูงใจให้นักขุดทำงานบนเครือข่าย Bitcoin ก็ลดลง ส่งผลให้นักขุดน้อยลงและความปลอดภัยของเครือข่ายก็ลดลงตามไปด้วย
ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อ Bitcoin Halving ทำให้รางวัลจากการขุดลดลงครึ่งหนึ่งจนกระทั่งไม่มีการสร้าง Bitcoin ออกมา ผู้ขุดก็จะได้รับรางวัลในรูปแบบของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นทดแทน
ในปัจจุบัน ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย Bitcoin คิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของรายได้ของผู้ขุด ซึ่งปัจจุบันผู้ขุดสร้างประมาณ 900 BTC (ประมาณ 33.5 ล้านดอลลาร์) ต่อวัน และมีรายได้ระหว่าง 60 ถึง 100 BTC (2.2 ล้านถึง 3.7 ล้านดอลลาร์) ในค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมรายวัน
นั่นหมายความว่า ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในปัจจุบันคิดเป็น 6.5% ของรายได้ของผู้ขุด แต่ในปี 2140 ที่ไม่มีการสร้าง Bitcoin เพิ่มเติม รายได้จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมจะมีสัดส่วนเป็น 100% ในรายได้ของนักขุด
5.ผลกระทบจาก Bitcoin Halving ต่อราคาของ Bitcoin
ตามกฎของอุปสงค์และอุปทาน อุปทานของ Bitcoin ที่ลดลงควรเพิ่มความต้องการ Bitcoin และน่าจะผลักดันราคาของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ให้สูงขึ้น
ทฤษฎีหนึ่งที่เรียกว่า Stock-to-Flow ซึ่งจะเป็นการคำนวณอัตราส่วนโดยพิจารณาจากอุปทานของ Bitcoin ในปัจจุบันและจำนวนอุปทานที่จะถูกสร้างเข้าสู่ระบบ โดยแต่ละกิจกรรม Bitcoin Halving นั้นมีผลกระทบต่ออัตราส่วนนั้น
ในอดีต หลังจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving ราคาของ Bitcoin นั้นจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ในทันที ซึ่งปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาวะของตลาดและเศรษฐกิจของโลกในขณะนั้นก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงก่อนเหตุการณ์ Bitcoin Halving ในเดือนมิถุนายน 2016 ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 660 ดอลลาร์ หลังจากการ Bitcoin Halving ในครั้งนั้น ราคาของ Bitcoin ก็ยังคง Sideway ไปจนถึงสิ้นเดือน ก่อนจะตกลงมาที่ 533 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน แล้วราคาของ Bitcoin ก็พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่มากกว่า 20,000 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี 2019 ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 2,916%
อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญคือหลังจากการ Bitcoin Halving ในปี 2020 ราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นจาก 9,000 ดอลลาร์สู่ระดับ 27,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี ซึ่งในช่วงสองเดือนหลังจากการ Bitcoin Halving ราคาของ Bitcoin ก็ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่นักลงทุนต้องทราบคือ ปัจจัยอื่นๆ ก็มีอิทธิพลต่อมูลค่าของ Bitcoin เพราะในปี 2020 การลงทุนจากสถาบันการเงินชั้นนำอย่าง MicroStrategy และการตัดสินใจของ PayPal เพื่อให้ผู้ใช้สามารถซื้อและถือ Bitcoin ได้ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น
สมัครสมาชิก ScalesBot วันนี้ ใช้งานฟรีทันที 7 วัน
ScalesBot A.I. เครื่องมือบริหารพอร์ตคริปโทฯ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการติดตามตลาด และสร้างกำไรได้จริงโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี A.I.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scalesbot.com/
หรือหากต้องการทดลอง Backtest ย้อนหลังก่อนตัดสินใจสมัคร https://app.scalesbot.com/backtest
อ้างอิง: LINK
