fbpx

กราฟแท่งเทียนบอกอะไรกับเรา? คู่มือเบื้องต้นสำหรับการศึกษากราฟแท่งเทียน 

กราฟแท่งเทียนถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งท่ีสำคัญเป็นอย่างมากที่นักลงทุนต้องรู้ และนี่คือบทความที่จะมาอธิบายพื้นฐานสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรพลาดแม้แต่บรรทัดเดียว

นักลงทุนหน้าใหม่มักจะหวาดกลัวต่อการอ่านกราฟหรือการวิเคราะห์เชิงเทคนิคใดๆ ทำให้นักลงทุนบางคนพึ่งพาสัญชาตญาณของตัวเองในการลงทุน แม้ว่ากลยุทธ์นี้อาจจะใช้ได้ในตลาดกระทิง แต่อาจจะไม่สามารถใช้กลยุทธ์แบบนั้นได้ในระยะยาว ยิ่งถ้าคุณอยู่ในตลาดหมีที่โหดร้ายและซบเซา กลยุทธ์ที่ใช้สัญชาตญาณของตัวเองในการลงทุนอาจจะทำให้คุณสูญเสียเงินทุนจำนวนมากก็เป็นได้ 

โดยพื้นฐานแล้ว การซื้อ ขายและการลงทุนนั้นเป็นเกมของความน่าจะเป็นและการจัดการความเสี่ยง ดังนั้น ความสามารถในการอ่านรูปแบบของแท่งเทียนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อทุกรูปแบบของการลงทุน 

และในบทความนี้ ScalesBot จะมาอธิบายถึงความหมายของกราฟแท่งเทียนว่าคืออะไรและเราจะอ่านกราฟแท่งเทียนเหล่านั้นได้อย่างไร

กราฟแท่งเทียนคืออะไร?

แท่งเทียนเป็นแผนภูมิทางการเงินประเภทหนึ่งที่แสดงการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในกรอบเวลาที่กำหนด แท่งเทียนแต่ละแท่งนั้นจะแสดงถึงระยะเวลาที่เท่ากัน โดยแท่งเทียนสามารถแสดงช่วงเวลาใดก็ได้ ตั้งแต่ 1 วินาทีไปจนถึง 1 ปี 

โดยส่วนใหญ่ กราฟแท่งเทียนนั้นจะถูกใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน แท่งเทียนนั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถวัดความน่าจะเป็นของการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่างๆ ได้ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อนักลงทุนในการวิเคราะห์ทางเทคนิคก่อนที่จะทำการลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ 

แผนภูมิแท่งเทียนทำงานอย่างไร

อธิบายส่วนต่างๆของแท่งเทียน

กราฟแท่งเทียนจัดเป็นกราฟ OHCL หรือ Open High Low Close (ราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด ราคาปิด) ประเภทหนึ่ง โดยระยะห่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดจะเรียกว่า Body ในขณะที่ระยะห่างระหว่าง Body กับราคาสูงสุด/ต่ำสุดจะเรียกว่า ไส้เทียน หรือ Wick  และระยะห่างระหว่างราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดของแท่งเทียนจะเรียกว่า Range of the Candlestick หรือช่วงของแท่งเทียน

การแปลความหมายของแท่งเทียน 

  1. ราคาเปิด — ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งแรกที่บันทึกไว้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด 
  2. ราคาสูงที่สุด — ราคาซื้อขายสูงสุดของสินทรัพย์ที่บันทึกไว้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด
  3. ราคาต่ำที่สุด — ราคาซื้อขายต่ำสุดที่บันทึกไว้ของสินทรัพย์ภายในกรอบเวลาที่กำหนด
  4. ราคาปิด — ราคาซื้อขายล่าสุดของสินทรัพย์ที่บันทึกไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
  1. ราคาเปิด — ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งแรกที่บันทึกไว้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด 
  2. ราคาสูงที่สุด — ราคาซื้อขายสูงสุดของสินทรัพย์ที่บันทึกไว้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด
  3. ราคาต่ำที่สุด — ราคาซื้อขายต่ำสุดที่บันทึกไว้ของสินทรัพย์ภายในกรอบเวลาที่กำหนด
  4. ราคาปิด — ราคาซื้อขายล่าสุดของสินทรัพย์ที่บันทึกไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

วิธีการอ่านกราฟแท่งเทียน

นักเทรดหลายคนมองว่าการใช้กราฟแท่งเทียนนั้นทำให้สามารถแปลความได้อย่างง่ายดายกว่ากราฟแท่งและเส้นแบบทั่วไป ทำให้นักลงทุนสามารถอ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว จากข้อมูลที่นำเสนอจากกราฟแท่งเทียน

ในทางปฏิบัติ กราฟแท่งเทียนนั้นจะแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างตลาดกระทิงและตลาดหมีในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทั่วไป ยิ่ง Body ยาวเท่าไร แรงกดดันในการซื้อหรือขายก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น หากไส้เทียนสั้นแสดงว่าราคาที่สูงหรือต่ำที่สุดของกรอบเวลานั้นๆ ใกล้กับราคาปิด

ไม่เพียงเท่านั้น สีและการตั้งค่าต่างๆ ของแท่งเทียนก็จะแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าของนักลงทุน โดยทั่วไป หาก Body ของแท่งเทียนเป็นสีเขียว แสดงว่าราคาปิดของนั้นสูงกว่าราคาเปิดและ Body ของแท่งเทียนที่เป็นสีแดงนั้นหมายความว่าราคาปิดนั้นต่ำกว่าราคาเปิด

แล้วกราฟแท่งเทียนไม่ได้บอกอะไรกับเรา

แม้ว่ากราฟแท่งเทียนจะมีประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ แต่มันก็ไม่ได้บอกข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการสำหรับการวิเคราะห์ที่ครบถ้วนและครอบคลุม ยกตัวอย่างเช่น แท่งเทียนไม่ได้แสดงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาระหว่างราคาเปิดและราคาปิด และไส้เทียนที่บอกเราถึงราคาสูงสุดและต่ำสุดนั้นก็ไม่ได้บอกเราว่าอันไหนเกิดขึ้นก่อน เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้น กราฟแท่งเทียนยังได้รับผลกระทบจากสัญญาณรบกวนจำนวนมากที่เกิดขึ้นในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเลือกกรอบเวลาที่สั้นลง กราฟแท่งเทียนก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก ซึ่งทำให้ยากต่อการตีความ

กราฟแท่งเทียน “Heikin-Ashi”  

จากที่กล่าวไปข้างบนว่ากราฟแท่งเทียนนั้นได้รับผลกระทบจากสัญญาณรบกวนจำนวนมากที่เกิดขึ้นในตลาด ทำให้นักลงทุนเริ่มคิดค้นหาวิธีการที่จะมาช่วยให้การลงทุนของพวกเขานั้นดียิ่งขึ้น และ Heikin-Ashi ก็เป็นหนึ่งในโซลูชันเหล่านั้น

Heikin-Ashi เป็นภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า “Average Bar” ซึ่งเป็นกราฟแท่งเทียนซึ่งใช้ข้อมูลราคาเฉลี่ยที่มีเป้าหมายหลักคือการทำให้การเคลื่อนไหวของราคานั้นราบรื่นและกรองสัญญาณรบกวนออกไป

โดยแท่งเทียนสีเขียวของ Heikin-Ashi ที่ไม่มีไส้เทียนด้านล่างจะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ในขณะที่แท่งเทียนสีแดงที่ไม่มีไส้เทียนด้านบนนั้นจะชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง

ดังนั้น กราฟแท่งเทียน “Heikin-Ashi” จึงช่วยให้นักลงทุนมองเห็นแนวโน้มของตลาด รูปแบบราคา และการกลับตัวที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากราฟแท่งเทียน Heikin-Ashi จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อนักลงทุน แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เนื่องจากแท่งเทียนในรูปแบบนี้จะใช้ข้อมูลราคาเฉลี่ยในการคำนวณ ทำให้ต้องใช้เวลานานในการคำนวณ นอกจากนี้ กราฟแท่งเทียน Heikin-Ashi ยังไม่แสดงช่องว่างของราคาและข้อมูลที่มีความละเอียดอื่นๆ อีกด้วย

Key Takeaway

กราฟแท่งเทียนเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่สุดสำหรับนักลงทุน เครื่องมือนี้จะนำเสนอการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ที่กำหนดและยังมีความยืดหยุ่นในการวิเคราะห์ของข้อมูลในกรอบเวลาที่แตกต่างกัน

การศึกษากราฟแท่งเทียนอย่างละเอียดประกอบกับการใช้เครื่องมือทางเทคนิคจะทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทุกคนก็ต้องศึกษาและควบคุมความเสี่ยงให้ดีที่สุดเพื่อทำให้การลงทุนของเรานั้นเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

อ่านมาครบทุกบรรทัดแล้ว แต่ก็ยังงงๆ อยู่ดีใช่ไหมครับ?

ScalesBot คือคำตอบที่คุณกำลังตามหาซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การลงทุนของคุณได้ 

ScalesBot A.I. (สเกลบอท เอไอ) เป็นเครื่องมือเทรดอัตโนมัติในตลาดคริปโทที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ตั้งค่าผ่านเว็บไซต์ หลังจากนั้น A.I. จะทำงานเทรดตามกลยุทธ์ที่ผู้ใช้งานเลือก ไม่ว่าจะเป็น

  • ScalesBot มีการปรับใช้ RSI ในกลยุทธ์การบริหารจัดการพอร์ต ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและช่วยให้พอร์ตของนักลงทุนเติบโตอย่างมั่นคง
  • เทรดบน Spot Wallet
  • ปรับพอร์ตอัตโนมัติตามเทรนด์ตลาด
  • ปรับขนาดถือครองเหรียญอัตโนมัติ
  • หยุดการคาดเดา ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์และตอบคำถาม
  • ดูแลทั้งพอร์ต ไม่ใช่แค่คู่เหรียญ
  • การตั้งค่า Stop Loss ในกรณีที่ต้องการจัดการความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง
  • โฟกัสสร้างกำไร ไม่ใช่ Cashflow
  • เชื่อมต่อปลอดภัยผ่าน API
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนสาย HOLDER

และด้วยฟังก์ชันการเชื่อมต่อผ่าน API ทำให้ผู้ใช้งานบอทของเราสบายใจได้ว่าสินทรัพย์ของพวกเขานั้นจะปลอดภัยหายห่วง เพราะการเชื่อมต่อผ่านทาง API โดยตรงจะสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงได้ ทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลว่าบอทจะโยกย้ายเงินของคุณไปที่ไหนรึเปล่า ยิ่งไปกว่านั้น เงินทั้งหมดจะอยู่ในบัญชีของคุณ คุณไม่ต้องโอนเงินมาฝากที่เราแม้แต่บาทเดียว ถ้าหากคุณต้องการปิดการทำงานของบอท คุณก็สามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย เพียงล็อกอินผ่านหน้าเว็บไซต์ คุณก็สามารถที่จะเข้ามาเปิดหรือปิดการทำงานของบอทได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ต้องการ 

Always DYOR & Enjoy Using ScalesBot!

สมัครสมาชิก ScalesBot วันนี้ ใช้งานฟรีทันที 7 วัน

ScalesBot A.I. เครื่องมือบริหารพอร์ตคริปโทฯ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการติดตามตลาด และสร้างกำไรได้จริงโดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี A.I.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scalesbot.com/
หรือหากต้องการทดลอง Backtest ย้อนหลังก่อนตัดสินใจสมัคร https://app.scalesbot.com/backtest

อ้างอิง: LINK