fbpx

Bear Market

ตลาดหมี (Bear Market) คืออะไร

ถ้าเอาสรุปโดยสั้นๆ ในการลงทุนเราจะมีศัพท์ที่เรียกตลาดขาขึ้นว่า “กระทิง” (Bull Market) ซึ่งสื่อถึงความดุดัน ในขณะที่ “ตลาดหมี” (Bear Market) หมายถึงภาวะตลาดขาลง เปรียบเทียบกับหมีที่เดินเชื่องช้า ซึ่งในทฤษฎีด้านการลงทุนจะระบุไว้ว่าหากราคามีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 20% จะถือว่าเข้าสู่ตลาดหมีหรือตลาดกระทิง

เราจะเอาตัวรอดใน "ตลาดหมี" ได้อย่างไร

หากไม่พูดถึงเทคนิคการซื้อขายที่ยากและซับซ้อนกว่า อย่างเช่นการ short positions หรือ leveraged tokens แล้ว [อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Binance Leveraged Tokens เพิ่มเติมได้ที่นี่]
 
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดที่นักลงทุนสามารถปรับมาใช้ในตลาดหมี คือการพยายามถือเงินสดหรือ stable coins ให้มากกว่าทรัพย์สินเสี่ยง มองง่ายๆ ว่าหากเราไม่สบายใจกับการที่ราคาจะลดลงไปได้เรื่อยๆ อีก ก็คงเป็นการดีกว่าที่จะถือเงินสดรอจนกว่าตลาดจะเริ่มกลับมา และค่อยเริ่มเปลี่ยนเงินสด ให้กลายเป็นทรัพย์สินอื่น หากมีสัญญาณในช่วงที่ตลาดกำลังจะกลับมาขึ้นแทน
 
ในขณะเดียวกัน หากนักลงทุนพิจารณาเทียบระหว่างการตัดสินใจ stop loss บางเหรียญเพื่อกลับมาถือเงินสด กับการถือยาวๆ (HODL) แล้วเชื่อว่าเหรียญน่าจะกลับมาได้ในระยะยาวและคุ้มกว่าการ stop loss นักลงทุนก็อาจจะสามารถ HODL บางเหรียญ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของนักลงทุนที่แต่ละคนสามารถรับความเสี่ยงได้ไม่เหมือนกัน

สรุป

ถ้ามองง่ายๆ จะมองได้ว่า หากอยู่ในช่วงตลาดหมี หรือขาลง การถือเงินสด หรือ stable coins นั้น จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงได้มากกว่าการถือเหรียญอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงจากการลดลงของมูลค่าลงไปอีก แล้วรอจนกว่าจะกลับตัวเพื่อเริ่มทำกำไร

หรือนักลงทุนสาย HODL อาจจะพิจารณาการ HODL ยาวแล้วรอกลับตัวมา แต่ก็มีความเสี่ยงว่าบางครั้งเราอาจจะไม่รู้ว่าตลาดหมีจะอยู่ยาวนานไปอีกจนถึงเมื่อไหร่ หรือเหรียญนั้นๆ จะกลับมาที่ราคาปัจจุบันนี้ไหมอยู่ดี

สุดท้ายนี้ ตลาดคริปโทฯ เป็นตลาดที่ค่อนข้างผันผวน อยากให้นักลงทุนใช้ข้อมูลที่มีและสติก่อนตัดสินใจทุกครั้งนะครับ ขอให้เทรดอย่างสนุกและปลอดภัยครับ